Wednesday, September 28, 2005

ณ สถานที่ ที่เวลาเดินถอยหลัง

"สวัสดี ดากานดา"
...
...
...

...กี่ปีแล้วหนอ ที่ใช้ชีวิตราวกับว่าเวลามันหยุดนิ่ง ฤ อาจจะเดินถอยหลังเสียด้วยซ้ำ...

นับตั้งแต่เวลาพาให้ชีวิตได้พบกับใครคนหนึ่ง แล้วเวลาก็พัดผ่าน และพัดพาให้ต้องเหินห่างจากใครคนนั้น
ในความเป็นจริง มันก็เป็นเพียงเรื่องปกติธรรมดา เป็นสัจธรรมที่ได้พบเจอกันอยู่บ่อยๆ
เวลาที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เหมือนๆ กับความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยหยุดทำหน้าที่ของมัน
แต่ช่วงเวลาเกือบสิบปีที่ผ่านมา ผมเองกลับดำรงชีวิตอยู่ในสถานที่ที่เวลาเหมือนหยุดนิ่ง ฤ บางทีอาจจะเดินถอยหลัง

ผมยังคงมีความสุข กับบางช่วงเวลาในอดีต
ผมยังคงพาตัวเองไปพบกับเธอคนนั้นในความทรงจำ
ผมยังคงเมินเฉยกับความจริงที่เวลานั้นไม่เคยหยุดเดิน
และที่แน่นอนที่สุด...ผมยังคงมีความรักให้เธอคนนั้นเสมอ
...
...
...

เพียงแค่หวังว่า สักวันหนึ่ง ผมจะได้พบกับใครบางคน ที่จะมาไขลานให้เวลาของผมไม่หยุดนิ่ง ไม่ถอยหลัง
และ ณ ที่แห่งนั้น เวลาของผมคงจะเดินไปข้างหน้า ตามธรรมชาติของมันเสียที

--------------------------------------------------------------------------------------
* ขอบคุณพี่เอ๋ สำหรับ "เพื่อนสนิท" รอบสื่อมวลชน ที่ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจสำหรับการเขียนครั้งนี้
* ขอบคุณเธอคนนั้น สำหรับความทรงจำที่ดี และสำหรับความสุขที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นเพียงแค่ผมเอง ที่สุขไปคนเดียว
* "ดากานดา แปลว่า หญิงอันเป็นที่รัก"
--------------------------------------------------------------------------------------

Monday, September 19, 2005

เหนือฟ้ายังมีฟ้า

เคยรู้สึกว่าตัวเองไร้ความสามารถกันบ้างไหม?

-----------------------------------------------------------------
เคยมั่นใจในศักยภาพของตัวเอง
เคยคิดว่าอย่างน้อยก็ไม่อ่อนด้อยไปกว่าใคร
แล้ววันหนึ่งก็เข้าใจสัจธรรม..."เหนือฟ้ายังมีฟ้า"
บางทีเรามันก็แค่กบในกะลา...
บางครั้งเรามันก็แค่คน ไม่ใช่เทวดา...
บางคราวเรามันก็แค่เศษธุลีใต้แผ่นฟ้า...
บางเวลาเราพึงระลึกไว้ว่า...เหนือฟ้ายังมีฟ้าอยู่เสมอ
-----------------------------------------------------------------

ผมไม่ใช่คนจองหอง ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องอยู่เหนือกว่าคนอื่น
บ่อยๆ ที่ยอมรับ นับถือ อิจฉา อยากเป็น อยากเก่ง เหมือนใครๆ
บ่อยๆ ที่รู้สึกว่า เรามันก็แค่ตัวนิดเดียว ไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างบางใคร
แต่กับครั้งนี้ มันเหมือนความมั่นใจที่มี กร่อนไปจนเกือบไม่เหลือ
ช่องว่างนั้นถูกแทนที่ด้วยความไม่แน่ใจ...เรามีความสามารถแค่ไหนกัน

อาจเป็นเพราะ กำลังอยู่ในช่วงสับสนกับชีวิต ว่าจะเลือกเส้นทางไหน
อาจเป็นเพราะ กำลังจะเดิมพันชีวิต โดยไม่มีอะไรหนุนหลัง นอกจาก"ความเชื่อ"
และอาจเป็นเพราะ...ในความเป็นจริง คนเราก็มีช่วงเวลา หรือซอกมุมแห่งความอ่อนแอ

...
...

ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหนักหนา
บางใครอาจบอกว่า...เรื่องแค่นี้ เท่าขี้หมา จะพร่ำพรรณนาไปทำไม

ใช่ครับ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่
และผมมั่นใจ... อีกไม่กี่วัน มันก็จะเป็นแค่เศษเสี้ยวของชีวิตที่ถูกลืมไป
ผมแค่อยากจะเขียนไว้เตือนใจตัวเอง
หรือจะดียิ่งขึ้นไป ถ้ามันสามารถช่วยให้ใครฉุกคิดและตระหนัก...
ตระหนักถึงสัจธรรมข้อหนึ่ง

...เหนือฟ้ายังมีฟ้า...

Wednesday, September 07, 2005

คนกับธรรมชาติ

คนเราเกิดมาอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง แล้วก็ตายจากไป
ธรรมชาติ มีอยู่ คงอยู่ ก่อนหน้า และอาจตลอดไป
เราก็เหมือนผู้มาขออยู่อาศัย...ฤเปล่า?
ธรรมชาติใจดี เป็นเจ้าบ้านที่ดี ให้คนเราอยู่อาศัย รบกวน เบียดเบียน อย่างไม่เคยปริปากบ่น
(ผมคิด...ถ้าบ่นได้ ธรรมชาติคงด่ากราด ยิ่งกว่าแม่ค้าปากจัดตามตลาดสด)
เหมือนคนเราจะได้ใจ...เมื่อธรรมชาติปล่อยให้เรารบกวน เบียดเบียน
...เราก็ไม่เคยคิดเกรงใจ ขอให้ตัวเองสุขสบายเป็นพอ...