Sunday, August 28, 2005

"...ก็ชีวิต ไม่ง่ายดาย เลยสักนิด...แต่ชีวิต ไม่ยากเย็น อย่างที่คิด..."

ผมเรียน ม.ปลาย สายวิทยาศาสตร์
ผมเรียน มหา'ลัย คณะวิศวกรรมศาสตร์
ผมทำงาน(มาแค่ 3 เดือน) ในตำแหน่ง technical support engineer
แต่วันนี้ ผมไม่อยากเดินบนเส้นทางสายวิศวกรอีกต่อไป

การตัดสินใจไม่ง่าย
ในขณะที่ ก็ไม่น่าจะยากนัก
แต่ปัจจัยมันไม่ใช่แค่ ชอบ หรือ ไม่ชอบ
พ่อ แม่ คือคนสำคัญที่สุดที่ต้องคิดถึงไปด้วย
อนาคต ความมั่นคง นั่นคงพูดไม่ได้ว่าไม่สำคัญ
...
...
...
แต่ในเมื่อชีวิตทุกวันเริ่มต้นด้วยความทุกข์
นั่นน่าจะเป็นเหตุผลที่ดีพอสำหรับการเปลี่ยนแปลง
ปัญหาก็คือ จะย้ายตัวเองไปอยู่ตรงไหนในสังคมบูดๆ บนโลกเบี้ยวๆ ใบนี้

ทุกวันคือคำถาม
คำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้
ความรู้สึกที่พลุ่งพล่านออกมาจากข้างใน...ไม่มีความสุข
ความคิดที่ไม่เคยหยุด...จะไปทางไหน
ข้างในร่างกาย ส่งเสียงเตือนด้วยอาการป่วยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ด้วยความที่เป็นคนสนุกสนาน ร่าเริง ผมไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่ความเครียดวิ่งลงกระเพาะ
(แต่อาการที่เกิด เพื่อนหมอสองคน ลงความเห็นเหมือนกันว่า น่าจะมาจากความเครียด)
...
...
...
ถ้าผมเลือกที่จะทิ้งสิ่งที่เรียนมา ไปสู่เส้นทางที่ชอบ แต่ไม่สามารถประกันความมั่นคงในอนาคตได้
(ซึ่งถ้าผมตัดสินใจ ท่านคงห้ามอะไรไม่ได้ และถ้าว่ากันจริงๆ ท่านไม่เคยบังคับ และปล่อยให้ผมตัดสินใจเองมาตลอด)
ท่านทั้งสองจะเสียใจไหม?
ท่านทั้งสองจะเข้าใจไหม?

ถ้าผมได้เดินบนเส้นทางที่ผมเลือก
ผมจะทำให้ท่านหมดห่วงได้ไหม?
ผมจะไปได้ไกลแค่ไหน?

คำถามที่ไม่มีวันได้คำตอบในเร็ววัน
มีแต่ความหวัง อยากให้ท่านทั้งสองรับรู้ว่า
...วันนี้ กับการงานที่ดูมั่นคง ผมไม่มีความสุข
...วันหน้า(ถ้ามี) กับการงานที่ต้องใช้เวลาพิสูจน์ ผมน่าจะมีความสุข หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ทุกข์น้อยกว่า
เพราะความสุข บางครั้งอาจหาได้จากสิ่งเล็กน้อย รอบๆ ตัว และสิ่งเล็กน้อย ภายในใจของเราเอง ใช่ไหมครับ
...เงินไม่ใช่คำตอบเสมอไป


วันนี้ ผมไม่มีความสุขเลยครับ

Saturday, August 13, 2005

"เพื่อนสนิท"

เพื่อน/รัก.....รัก/เพื่อน


เมื่อวาน... ผมถูกชักชวนให้ไปดูหนังตัวอย่าง(Trailer)ของหนังไทยเรื่อง "เพื่อนสนิท"
โครงเรื่องของหนัง มันชวนให้นึกถึงเรื่องเก่าๆ คนเก่าๆ ... รักเก่าๆ
ตัวอย่างหนังเพียงแค่ 2-3 นาที(ต่อหนึ่งแบบ) แต่ดูแล้วกลับใจหายวาบ เหมือนกับว่าน้ำตาจะซึมออกมา
...
...
ผมเชื่อว่า คนส่วนใหญ่ น่าจะเคยรู้สึกดีๆ จนถึงขั้นหวั่นไหว ไปกับคนใกล้ชิดที่เรียกว่า"เพื่อนสนิท"กันมาบ้าง
...ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
...
...
ผมอยากจะไปดูหนังเรื่องนี้...อาจเป็นเพราะผมนึกถึงใครบางคน และอะไรบางอย่าง
หลายๆ คนอาจจะไปดูหนังเรื่องนี้ เพราะนึกถึงความหลังเก่าๆ
ผมไม่รู้ว่าความรักของตัวละครในหนังจะจบลงแบบไหน
แต่ความรักของผม มันจบลงไปแล้ว...แบบไม่สมหวัง
แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น ผมก็ยังอยากที่จะรู้ว่า ถ้าเธอคนนั้นมีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้ เธอจะนึกถึงผมบ้างไหม...
...
...
ใครบางคนบอกไว้ว่า มีเส้นแบ่งบางๆ ระหว่าง...

เพื่อน/รัก

รัก/เพื่อน

...แล้วคุณเคยรู้สึกหลงรัก"เพื่อนสนิท"ของคุณบ้างไหม?


ปล. ขอบคุณพี่เอ๋ และอีกหลายๆ พี่ หลายๆ เพื่อน แห่งบริษัท จีเอ็มเอ็ม ไท หับ ที่ให้โอกาสผมได้ไปดูหนังตัวอย่างถึงในห้องฉายหนังของบริษัท ... ขอบคุณครับ แล้วคงได้ไปสนุกกันอีก

Wednesday, August 03, 2005

"ฉันสูญสิ้นศรัทธาในความรัก"

หลายคนคงเคยผ่านหูกับประโยคข้างบน
ถ้าจำไม่ผิด คงเป็นหนังเรื่อง"กุมภาพันธ์"

...
...
...

คุณเคยรู้สึกว่า"อาภัพรัก"กันบ้างไหมครับ?

เมื่อคำว่ารักที่เกิดขึ้น มักไม่ถูกที่ ไม่ถูกเวลา
เมื่อความรัก ที่มีให้ใครสักคน ไม่ได้รับการตอบสนอง และอาจถูกมองข้ามในหลายคราว
เมื่อเกือบทุกสิ่งที่ทำให้ใครสักคนอย่างที่อาจไม่มีใครอื่นได้รับ เสมือนเป็นเพียงหนึ่งหยดน้ำในผืนมหาสมุทร
แล้วสุดท้าย ความรักก็จบลงด้วยความผิดหวัง

อาจไม่ต้องบ่อยครั้ง แต่ความผิดหวังมันก็กัดกร่อน
กัดกร่อนจนบางครั้งอดแปลกใจไม่ได้ว่า หัวใจมันใหญ่แค่ไหนกัน ถึงได้ยังมีเหลือ...คงเหลืออยู่กับความรักนั้น แม้จะเพียงเศษเสี้ยว
ความรักมันคงยิ่งใหญ่ เหมือนอย่างที่ใครต่อใครว่าไว้จริงๆ

ผมไม่รู้หรอก เพราะผมยังไม่เคยมี"คนรัก"
ครับ อ่านถูกต้องแล้วครับ ผมไม่เคยมี"คนรัก"
อาจฟังดูแปลก... ไม่เคยมี"คนรัก" แล้วจะมาพร่ำเพ้ออะไรกับ"ความรัก"
แต่มันคงเหมือนกับที่"คนรัก"ของเพื่อนผมพูดกับผมเมื่อวานนี้

"ความรัก"กับ"คนรัก" หลายๆ ครั้ง ทั้งสองสิ่ง มาไม่พร้อมกัน
...
...

คุณเคยอิจฉากันบ้างไหม?
อิจฉาในความรักที่คนอื่นมี อิจฉาในคนรักที่คนอื่นมี
เคยรู้สึกว่า โลกนี้ไม่ยุติธรรมกันบ้างไหม?
ความรักที่มี แน่ใจว่าไม่น้อยกว่าใคร ...หากมันวัดกันได้...
แล้วทำไม...ทำไม...ทำไม...

ความผิดหวังที่กัดกร่อนข้างใน
นานเข้า นานเข้า อาจเปลี่ยนเป็นความคุ้นชิน
นานเข้า นานเข้า อาจไม่ต้องการความรู้สึกที่เรียกว่ารักอีกต่อไป
นานเข้า นานเข้า อาจไม่เชื่อในรักแท้อีกต่อไป

ฤว่า...ผมกำลังจะสูญสิ้นศรัทธาในความรัก ?

Monday, August 01, 2005

เลือกแบบไหน?

ช่วงนี้สับสนกับชีวิตชะมัด... จะเอาไง จะเอาไง จะเอาไง จะเอาไง
เป็นวิศวกร ทำโรงงานสองสัปดาห์ รวมกับออฟฟิศปัจจุบันอีก 2 เดือน เป็นสองเดือนครึ่ง ... ความสับสนก็ยังคงอยู่
ยังไม่เบื่อ ยังไม่เบื่อ ... เอ โน้มน้าว สะกดจิตตัวเองอยู่ฤเปล่านี่?

แต่ใครล่ะ อยากจะทำงาน มากว่าอยากอยู่สบายๆ ...ถ้าเสกเงินทองได้เหมือนนักมายากลน่ะนะ

กับงานที่(คิดว่า)ชอบ สนุก ...พวกดนตรี หนัง ทีวี หนังสือ อะไรแบบนั้น
จะไปทำจริงๆ ก็พอมีหนทางอยู่
แต่คงดูแลได้แค่หัวเดียวข้าวเหนียวนึ่ง
แล้วพ่อแม่ แล้วทางบ้านล่ะ? กี่ปีถึงจะมั่นคงพอที่จะดูแลได้ด้วย

กับงานที่ทำอยู่ เริ่มต้นก็สองหมื่นทอนสองพัน (ในความหมายที่พ้นทดลองงานไปแล้ว)
(บางคนอาจบอก...ไม่เยอะ
ผมอยากบอก...ไม่น้อย)
ทำไปเรื่อยๆ ความก้าวหน้าคงมีอยู่ และมั่นคงพอที่จะดูแลคนอื่นด้วย ในเวลาไม่นาน

ใจอยากเลือกทางที่สนุก... ไม่ใช่คนหรูหราอยู่แล้ว เงินเหรอ มีก็ดี ไม่มีก็ได้
ไม่เคยถูกสอนให้เห็นเงินเหมือนพระเจ้า เพราะความสุขบางครั้งหาได้จากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบตัว
แต่ก็ไม่หันหลังให้กับสังคมแบบบริโภค(จำมาจากคุณตุลย์) รับรู้ว่าในการดำรงชีวิตในโลกปัจจุบัน มันเป็นความจำเป็นอย่างหนึ่ง

ด้วยความรู้สึกว่า ยังหนุ่ม ยังมีแรง อยากจะผจญภัยบ้าง
แต่หลายปัจจัยมันยังดึงไว้อยู่... ทนหน่อย ทนหน่อย
ได้...ทนได้... แต่ตั้งขีดจำกัดไว้เท่าไรดีล่ะ?
อยากจะคิดให้มันง่ายๆ แค่ถามตัวเองว่าจะมีความสุขไหม... พูดง่าย แต่ทำยาก

ยิ่งสับสน ยิ่งคิด ยิ่งฟุ้งซ่าน
เลยเถิดไปถึงว่า ถ้าอยากมีครอบครัว งานแบบไหนถึงจะรองรับ?
งานที่(คิดว่า)ชอบ แต่ไม่มั่นคง แล้วใครจะอยากมาร่วมหัวจมท้ายด้วย
งานที่ไม่(ค่อย)ชอบ(เท่าไร) น่าจะมั่งคง แต่วันหนึ่ง คงกลายเป็นเหมือนคล้ายๆ กับหุ่นยนต์ที่ถูกโปรแกรมมาให้เข้ากับระบบ

คิดไปไหนกันนี่? ฟุ้งซ่าน เพ้อเจ้อ ไม่มีหยุด
พอๆๆ ... กลับมา กลับมา

ก็ไม่รู้สินะ... มันอธิบายไม่ถูก
เหมือนเป็นโรคเหงา ของมนุษย์เงินเดือนในเมืองใหญ่
มันเป็นยังไงหรือ ไอ้โรคที่ว่า...

ที่แน่ๆ ... สับสน สับสน สับสน สับสน
เลือกแบบไหน?