Friday, November 16, 2007

บ่นบ้า

ทำไมกูไม่จำสักทีนะ ว่าไอ้การที่จะตั้งใจพูดให้คนที่ไม่คิดจะ"ฟัง"เราตั้งแต่แรกสักเท่าไร แม่งเหนื่อยเปล่า
แม่ง ทำเหมือนจะ"ฟัง"แต่มันแค่"ได้ยิน"ในส่ิงที่เราพูด โดยที่มันมีบทสรุปว่าที่เราพูด'มันไม่ใช่'มาแล้วตั้งแต่ต้น
ยิ่งพูด ก็ยิ่งเฉไฉ ไถๆ แฉลบๆ ไปเรื่อย
เหนื่อยชิบหายกับที่ต้องตามมันไปพูดถึงประเด็นแฉลบ แล้วบอกว่าที่กำลังพูดกันอยู่เนี่ย มันไม่ใช่ประเด็นนี้ แล้วที่มึงกำลังพูดเนี่ย มันแฉลบออกไปแล้วโว้ย
แล้วสุดท้ายกลับมาบอกว่าเราเป็นคนคิดอะไรแคบๆ อีก เออ... เอากะมันดิ

เรามั่นใจในความพยายามที่จะมองให้หลากมุมของเรา และเราก็คิดว่า หลายๆ คนที่ตั้งใจ"ฟัง"ความคิดเห็นเราดีพอ จะรู้ได้ว่าเราพยายามมองให้หลากมุม พยายามที่จะไม่ลืมว่า คนเรามันต่างกัน และต้องอยู่ร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหาบนพื้นฐานของความต่าง
เราเองซะอีก ที่ควรจะบอกมันว่า มันกำลังเชื่อว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้จะเป็นแบบที่มันคิดมากเกินไปฤเปล่า

จำไว้ไอ้โบ๊ท จำไว้... ต่อไปให้ปล่อยผ่าน

Thursday, November 08, 2007

พระจันทร์ตกน้ำ... ที่ไหนจะสวยเท่าที่เจ้าพระยา...

เคยได้ยินกันไหม เพลงประกอบโฆษณาโครงการณ์ตาวิเศษ
(สมัยผมเด็กๆ ...เอ่อ กี่ปีมาแล้วนี่)

แต่เรื่องที่จะเขียนต่อไปนี้ ไม่เกี่ยวอะไรกับโฆษณาและเพลงประกอบข้างต้น ...!!!!




เมื่อไม่กี่วันก่อนเพิ่งได้ดูรายการ Top Gear บนทีวีช่อง Dave (ฤไม่ก็ Dave +1)
มีอยู่ช่วงหนึ่ง ทางผู้ดำเนินรายการเขาจัดให้มีการทดสอบการช่วยเหลือตัวเองหากเกิดเหตุการณ์รถตกน้ำ ว่าเราควรจะทำอย่างไรเพื่อเอาตัวรอดจากการจมน้ำ

อืม... รถตกน้ำ ที่ไหนๆ ก็คงไม่สวยเหมือนพระจันทร์ตกน้ำหรอก
ใช่ไหม...

...
...
...

วันนี้ ผมได้ฟอเหวิดเมลฉบับหนึ่ง ซึ่งจริงๆ ก็จำได้ว่าเคยได้อยู่เรื่อยๆ
เนื้อหาในฟอเหวิดเมลบอกเล่าถึงวิธีการปฏิบัติหากเกิดเหตุอันไม่พึงประสงค์ขณะขับรถ คือ ยางระเบิด และ รถตกน้ำ
ผมขอพูดถึงแค่รถตกน้ำก็แล้วกัน
นี่คือข้อควรปฏิบัติที่กล่าวไว้ในฟอเหวิดเมลนั้น

กรณีที่ 2 เมื่อรถตกน้ำ
ในกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุแล้วตกลงไปในแม่น้ำ ลำคลองใดๆ ก็ตาม
รถจะไม่ตกลงไปใน น้ำแล้วจมทันที เหมือนหิน ตกน้ำ แต่จะค่อยๆ
จมลงทีละน้อยๆ จนกว่าจะถึง พื้นล่างและในนาทีวิกฤตนี้
ควรตั้งสติให้ดี และปฏิบัติดังต่อไปนี้
1. ปลด SAFETY BELT ออกทุกๆคน รวมทั้งผู้โดยสารด้วย
2. อย่าออกแรงใดๆ เพื่อสงวนการใช้อากาศหายใจซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนจำกัด
3. ให้ยกส่วนศีรษะให้สูงเหนือระดับน้ำที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นในรถ
4. ปลดล็อกประตูรถทุกบาน
5. หมุนกระจกให้น้ำไหลเข้าในรถเพื่อปรับความดัน!
ในรถและนอกรถให้เท่ากันมิฉะนั้นท่านจะเปิด
ประตูรถไม่ออก เพราะน้ำจากภายนอกตัวรถจะดันประตูไว้
6. เมื่อความดันใกล้เคียงกันแล้วให้ผลักบานประตูออกให้กว้างสุด
แล้วท่านก็ออกจากห้องโดยสารของ รถได้
7. จากนั้นท่านอาจจะปล่อยตัวให้ลอยขึ้นเหนือน้ำตามธรรมชาติ
หรือจะว่ายน้ำขึ้นมาก็ได้ ในกรณีนี้หาก น้ำลึกมากๆอาจจะมองไม่เห็นว่า
ทิศใดเหนือน้ำ ทิศใดใต้น้ำเพราะว่า มืดไปหมดไม่ควรใช้วิธีว่ายน้ำ เพราะอาจจะว่าย ไปในทิศทางที่ไม่ขึ้นเหนือน้ำ
กรณีเช่นนี้ ควรปล่อยตัวให้ลอยขึ้นตามธรรมชาติ หรือ ลองเป่าปากดูว่า ฟองอากาศลอยไปในทิศทางใด
ให้ว่ายน้ำไปในทิศทางที่ฟองอากาศลอยไป ก็จะไม่มี อาการ หลงน้ำ
นอกจากนั้น ก่อนออกจากรถ หากท่านมีผู้โดยสารที่เป็นเด็กๆ อาจจะหนีบ เด็กๆ นั้น
ออกมากับท่านได้อีกหนึ่งคน ดังนั้นหากท่านปฏิบัติ ตามวิธีการเหล่านี้
ก็จะช่วยให้ชีวิตของท่าน ปลอดภัยได้ ในยามคับขัน

...
...
...

ในรายการ Top Gear ผู้ดำเนินรายการได้จำลองสถานการณ์รถตกน้ำขึ้นมา
ครั้งแรก เขาปฏิบัติเหมือนๆ กับที่ในฟอเหวิดเมลแนะนำ
ผลก็คือระหว่างรอให้ความดันในรถกับข้างนอกเท่ากัน อากาศเฮือกสุดท้ายที่เขาสูดเก็บไว้ในชั่วขณะก่อนที่น้ำจะเข้ามาเต็มรถ ได้หมดลงเสียก่อนที่จะสามารถเปิดประตูได้
(ในรายการ มีนักดำน้ำพร้อมถังออกซิเจนนั่งอยู่ข้างหลังรถด้วย ผู้ทดลองให้สัญญาณขอออกซิเจนมาใช้หายใจ จึงไม่เป็นอะไร)
ด้วยทักษะภาษาอังกฤษที่ยังคงกระท่อนกระแท่นของผม ผมจับความจากที่เขาอธิบายได้ว่า
หลังจากน้ำเข้ามาจนเต็มรถ (หรือเกือบเต็ม แต่ผมเข้าใจว่า จนผ่านพ้นวินาทีที่เราจะหายใจเฮือกสุดท้ายได้แล้ว) ความดันภายนอกและภายในรถไม่ได้เท่ากันในทันที
เขายังคงไม่สามารถเปิดประตูรถได้ ไม่ว่าจะออกแรงแค่ไหน
กว่าที่จะสามารถเปิดประตูได้ ก็เมื่อรถได้จมลงสู่พื้นสระแล้วชั่วขณะหนึ่ง
ซึ่งในการทดลอง สระน้ำที่เขาทดลองลึกเพียงไม่กี่เมตร (ผมจำไม่ได้แน่ชัดนัก แต่คิดว่าไม่น่าจะเกิน 3-4 เมตร)
ลองจินตนาการว่า ในชีวิตจริง หากเกิดเหตุการณ์รถตกน้ำจริง ความลึกจะเป็นเท่าไร และเวลาที่ต้องรอจนกว่าจะเปิดประตูได้ จะยิ่งนานขึ้นมากแค่ไหน

ในรอบที่สอง ผู้ทดลองได้รีบถอดเข็มขัดนิรภัย พยายามเปิดประตูพาตัวเองออกมาจากรถทันทีที่รถตกน้ำ ในช่วงเวลาที่รถยังลอยอยู่บนผิวน้ำ
(รถจะไม่จมลงไปใต้น้ำทันที จะมีช่วงเวลาที่ลอยอยู่ระดับผิวน้ำและค่อยๆ จมลงช้าๆ)

เขาปลอดภัยโดยไม่ต้องใช้ความช่วยเหลือใดๆ จากนักดำน้ำ

...
...
...

ผมอาจไม่ใช่พุทธศาสนิกชนที่ดีนัก จึงไม่สามารถจำคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ละเอียด
แต่ผมจำได้ว่า ในหลักกาลามาสูตร มีข้อหนึ่งบอกไว้ว่า

อย่าปักใจเชื่อเพียงเพราะเขาบอก